วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คีย์ลัดของ windowsและoffice


แป้นพิมพ์ลัด (ShortCut) ใน Windows XP

  • BACKSPACE (ดูโฟลเดอร์ย้อนขึ้นหนึ่งระดับใน My Computer หรือ Windows Explorer)
  • ESC (ยกเลิกงานปัจจุบัน)
  • CTRL+C (คัดลอก)
  • CTRL+X (ตัด)
  • CTRL+V (วาง)
  • CTRL+Z (ยกเลิก)
  • DELETE (ลบ)
  • SHIFT+DELETE (ลบรายการที่เลือกอย่างถาวรโดยไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin)
  • กดปุ่ม CTRL ขณะที่ลากรายการ (คัดลอกรายการที่เลือก)
  • กดปุ่ม CTRL+SHIFT ขณะที่ลากรายการ (สร้างทางลัดไปยังรายการที่เลือก)
  • ปุ่ม F2 (เปลี่ยนชื่อรายการที่เลือก)
  • CTRL+ ลูกศรขวา (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำถัดไป)
  • CTRL+ ลูกศรซ้าย (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของคำก่อนหน้า)
  • CTRL+ ลูกศรลง (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าถัดไป)
  • CTRL+ ลูกศรขึ้น (ย้ายเคอร์เซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นของย่อหน้าก่อนหน้าไป)
  • CTRL+SHIFT พร้อมกับปุ่มลูกศรใดๆ (ไฮไลต์บล็อกข้อความ)
  • CTRL+A (เลือกทั้งหมด)
  • ปุ่ม F3 (ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์)
  • ALT+ENTER (ดูคุณสมบัติต่างๆ ของรายการที่เลือก)
  • ALT+F4 (ปิดรายการที่ใช้งานอยู่ หรือปิดโปรแกรมที่ใช้งาน)
  • ALT+ENTER (แสดงคุณสมบัติของออบเจกต์ที่เลือก)
  • ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูทางลัดสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
  • CTRL+F4 (ปิดเอกสารที่ใช้งานอยู่)
  • ALT+TAB (สลับระหว่างรายการต่างๆ ที่เปิดอยู่)
  • ALT+ESC (สลับไปยังรายการต่างๆ ตามลำดับที่เปิด)
  • ปุ่ม F6 (สลับไปตามรายการอิลิเมนต์บนหน้าจอในหน้าต่างหรือบนเดสก์ทอป)
  • ปุ่ม F4 (แสดงรายการแอดเดรสบาร์ใน My Computer หรือ Windows Explorer)
  • SHIFT+F10 (แสดงเมนูทางลัดสำหรับรายการที่เลือก)
  • ALT+SPACEBAR (เปิดเมนูระบบสำหรับหน้าต่างที่ทำงานอยู่)
  • CTRL+ESC (แสดงเมนู Start)
  • ALT+อักษรขีดเส้นใต้ในชื่อเมนู (แสดงเมนูนั้นๆ)
  • อักษรที่ขีดเส้นใต้ในชื่อคำสั่งบนเมนูที่เปิด (ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ)
  • ปุ่ม F10 (เปิดแถบเมนูในโปรแกรมที่กำลังใช้งาน)
  • ลูกศรขวา (เปิดเมนูถัดไปทางขวา หรือเปิดเมนูย่อย)
  • ลูกศรซ้าย (เปิดเมนูถัดไปทางซ้าย หรือปิดเมนูย่อย)
  • ปุ่ม F5 (อัปเดทหน้าต่าง)
  • กดปุ่ม SHIFT ขณะที่ใส่แผ่นซีดีรอมลงในไดรฟ์ซีดีรอม (ยกเลิกการเล่นซีดีรอมอัตโนมัติ)
  • CTRL+SHIFT+ESC (เปิด Task Manager)



คีย์ลัดของ Office


CTRL + A = Select All เลือกทั้งหมด 
CTRL + B = Bold ตัวหนา 
CTRL + C = Copy คัดลอก 
CTRL + D = Font format กำหนดรูปแบบอักษร 
CTRL + E = Center ตรงกลาง 
CTRL + F = Find ค้นหา 
CTRL + G = Goto ไปที่ 
CTRL + H = Replace แทนที่ 
CTRL + I = Italic ตัวเอียง 
CTRL + J = Justify จัดชิดขอบ 
CTRL + K = Insert Hyper Link แทรกการเชื่อมโยงหลายมิติ 
CTRL + L = Left จัดชิดซ้าย 
CTRL + M = Indent เพิ่มระยะเยื้อง 
CTRL + N = New สร้างแฟ้มใหม่ 
CTRL + O = Open เปิดแฟ้มใหม่ 
CTRL + P = Print พิมพ์ 
CTRL + Q = Reset Paragraph ตั้งค่าย่อหน้าใหม่ 
CTRL + R = Right จัดชิดขวา 
CTRL + S = Save จัดเก็บ (บันทึก) 
CTRL + T = Tab (ตั้งระยะแท็บ) 
CTRL + U = Underline ขีดเส้นใต้ 
CTRL + V = Paste วาง 
CTRL + W = Close ปิดแฟ้ม 
CTRL + X = Cut ตัด 
CTRL + Y = Redo or Repeat ทำซ้ำ 
CTRL + Z = Undo ยกเลิกการกระทำครั้งล่าสุด 
CTRL + SHIFT + A = All Caps ทำเป็นตัวใหญ่ทั้งหมด (สำหรับภาษาอังกฤษ) 
CTRL + SHIFT + B = Bold ตัวหนา 
CTRL + SHIFT + C = Copy Format คัดลอกรูปแบบ 
CTRL + SHIFT + D = Double Underline ขีดเส้นใต้ 2 เส้น 
CTRL + SHIFT + E = Revision Mark Toggle สลับการทำเครื่องหมายรุ่นเอกสาร 
CTRL + SHIFT + F = Fonts Name Select เลือกชื่อแบบอักษร 
CTRL + SHIFT + G = Word count นับจำนวนคำ 
CTRL + SHIFT + H = Hidden ซ่อน 
CTRL + SHIFT + I = Italic ตัวเอียง 
CTRL + SHIFT + J = Thai Justify จัดคำแบบไทย 
CTRL + SHIFT + K = Small Caps ทำอักษรตัวพิมพ์เล็กให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่แบบเล็กๆ 
CTRL + SHIFT + L = Apply List Bullet ใช้เครื่องหมายหน้าข้อ 
CTRL + SHIFT + M = Unindent ลดระยะเยื้อง 
CTRL + SHIFT + N = Normal Style ใช้ลักษณะแบบปกติ 
CTRL + SHIFT + P = Font Size Select เลือกขนาดแบบอักษร 
CTRL + SHIFT + Q = Symbol Font ใช้แบบอักษรสัญลักษณ์ 
CTRL + SHIFT + R = Recount Words นับคำใหม่ 
CTRL + SHIFT + S = Style กำหนดลักษณะ 
CTRL + SHIFT + T = Unhang ไม่แขวนภาพ 
CTRL + SHIFT + U = Underline ขีดเส้นใต้ 
CTRL + SHIFT + V = Paste Format วางรูปแบบ 
CTRL + SHIFT + W = Word Underline ขีดเส้นใต้เฉพาะคำ 
CTRL + SHIFT + Z = Reset Character ตั้งค่าแบบอักษรใหม่ 
CTRL + ALT + C = Copyright sign ((c)) สัญลักษณ์ลิขสิทธิ์ 
CTRL + ALT + E = Euro Sign (?) สัญลักษณ์เงินยูโร 
CTRL + ALT + F = Insert Footnote Now แทรกหมายเหตุ
CTRL + ALT + I = Print Preview ตัวอย่างก่อนพิมพ์ 
CTRL + ALT + K = Auto Format จัดรูปแบบอัตโนมัติ 
CTRL + ALT + L = Insert List Number แทรกเลขลำดับหน้าข้อ 
CTRL + ALT + M = Insert Annotation แทรกคำอธิบาย 
CTRL + ALT + N = Normal View มุมมองปกติ 
CTRL + ALT + O = Outline View มุมมองแบบร่าง 
CTRL + ALT + P = Page View มุมมองเหมือนพิมพ์
CTRL + ALT + R = Registered sign สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน 
CTRL + ALT + S = Document Split แยกเอกสาร 
CTRL + ALT + T = Trade Mark sign (?) สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า CTRL + ALT + U = Update Auto Format for Table ปรับปรุงการจัดรูปแบบอัตโนมัติในตาราง
CTRL + ALT + V = Insert Auto Text แทรกข้อความอัตโนมัติ 
CTRL + ALT + Y = Repeat find ค้นหาเพิ่มเติม 
CTRL + ALT + Z = Go back ย้อนกลับ 
CTRL + < = Decrease Font size by step เพิ่มขนาดตัวอักษรทีละขนาดที่กำหนด 
CTRL + > = Increase Font size by step ลดขนาดตัวอักษรทีละขนาดที่กำหนด 
CTRL + [ = Decrease Font size by point เพิ่มขนาดตัวอักษรทีละพอยน์ CTRL + ] = Increase Font size by point ลดขนาดตัวอักษรทีละพอยน์ 
CTRL + - = Optional Hyphen แทรกยัติภังค์ 
CTRL + _ = Non Breaking Hyphen แทรกยัติภังค์แบบไม่แบ่งคำ 
CTRL + = = Sub Script ตัวห้อย 
CTRL + + = Super Script ตัวยก 
CTRL + \ = Toggle Master sub document สลับไปมาระหว่างเอกสารหลักและเอกสารย่อย 
CTRL + , = Prefix Keys กำหนดแป้นพิมพ์
กดปุ่ม F12 จะเป็นการ Save As..(บันทึกเป็น)
กดปุ่ม F7 จะเป็นการสะกดและไวยากรณ์
กดปุ่ม F5 จะเป็นการแทนที่ (การค้นหาและแทนที่)
กดปุ่ม F4 จะเป็นการใช้คำสั่งล้าสุดในการทำงาน เช่น ถ้าคำสั่งสุดท้ายเรากำลังลบงาน ถ้ากดปุ่ม F4 ก็จะลบงาน  แต่ถ้าเรากดปุ่ม Enter คำสั่งสุดท้าย ถ้ากดปุ่ม F4 ก็จะทำการเพิ่มบรรทัดขึ้นมา


Tips สำหรับ Windows

ปรับขนาดของถังขยะ recycle bin เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน 
คลิกขวา recycle bin ไป propoties
ปรับที่ตรง % จากเดิมมันจะเป็น 20% ก็ปรับเป็น 4 %ของ HDD จะก็สามารถเพิ่มพื้นที่ของ HDD ได้อีก 
16% เลย 





เมื่อ keyboard เสีย 
เราสามารถใช้โปรแกรมที่มากับ winxp มาแก้ขัดก่อนได้ คือ on-screen keyboard
ไปที่ start>run พิมพ์ OSK 

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประวัติและวิวัฒนาการของ CPU (Intel)

    หลังจากที่ Intel ออกCPU สำหรับอุปกรณ์พกพาในชื่อว่า Atom ไปเรียบร้อยแล้วนั้น กระแสก็ออกมาแรงเห็นๆ ทั้งกลุ่มผู้ผลิตมากมายก็เจาะตลาดขาย Netbook กันอย่างล้นหลาม Intel นั้นมีตำนานในการผลิต Microprocessor ตั้งแต่ใช้ในเครื่องคิดเลข และพัฒนาต่อยอดขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งทำให้เห็นว่าศักยภาพของการพัฒนาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั้น ทำให้เราได้ใช้เทคโนโลยีอย่างไร้ขีดจำกัด อยู่ที่ว่าเงินในกระเป๋าเราจะมีแค่ไหน ที่นี่เรามาย้อนดูวิวัฒนาการตั้งแต่ ปี 1971 จนถึงปัจจุบันกัน

1971 : 4004 Microprocessor รุ่นแรกของ Intel ใช้งานในเครื่องคิดเลข

1972 : 8008 Microprocessor รุ่นที่พัฒนาต่อมา ใช้งานแบบ "TV typewriter" กับ dump terminal 

1974 : 8080 Microprocessor รุ่นนี้เป็นการใช้งานแบบ Personal Computer รุ่นแรก ๆ 

1978 : 8086-8088 Microprocessor หรือรุ่น XT ยังเป็นแบบ 8 bit เป็น PC ที่เริ่มใช้งานจริงจัง 

1982 : 80286 Microprocessor หรือรุ่น AT 16 bit เริ่มเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานแพร่หลายกันแล้ว 

1985 : 80386 Microprocessor เริ่มเป็น CPU 32 bit และสามารถทำงานแบบ Multitasking ได้ 

1989 : 80486 Microprocessor เข้าสู่ยุคของการใช้จอสี และมีการติดตั้ง Math-Coprocessor ในตัว 

รุ่นแรกๆ ทาง Intel ใช้ชื่อรุ่นเป็นรุ่นของ CPU นั้นๆเลยจึงเกิดการเลียนแบบเทคโนโลยีกันขึ้นโดยค่ายอื่นได้ผลิตเทคโนโลยีตามหลังIntelมาเรื่อยๆ ต่อมาทาง Intel ได้ใช้ชื่อ Pentium แทน 80486 เนื่องจากการที่ ชื่อสินค้าที่เป็นตัวเลขกฏหมายไม่ยอมให้จดลิขสิทธิ์ จึงเป็นที่มาของชื่อ Platform ต่างๆ

1993 : Pentium Processor ยุคแรกที่ Intel ใช้ชื่อว่า Pentium 

1995 : Pentium Pro Processor สำหรับเครื่อง Server และ Work Station โดยต่อมาได้ผลิตเทคโนโลยี 
MMX และทำเป็น Intel MMX

1997 : Pentium II Processor รวมเ Technology ของ Pentium Pro คือ มี cache ระดับ 2 รวมอยู่บน 

package เดียวกับ CPU กับ Technology MMX ไว้ด้วยกัน แล้วทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน 
1998 : Pentium II Xeon(TM) Processor สำหรับ Server และ Work Station 

1999 : Celeron(TM) Processor สำหรับตลาดระดับล่างของ Intel ที่ตัดความสามารถบางส่วนออก เพื่อลด
ต้นทุนการผลิต และ สามารถขายได้ในราคาที่ถูกกว่า Pentium II มาก แต่ถึงแม้ Celeron ที่ออกมา
นั้น จะใช้ในงานด้าน เล่นเกมส์ได้ดี แต่กลับงานประเภท office application กลับทำได้แย่กว่า หรือ
พอพอกับ Pentium MMX

1999 : Pentium III Processor เพิ่มชุดคำสั่งที่ช่วยประมวลผลในด้านต่างๆไปใหม่ ในลักษณะของ MMX 

1999 : Pentium III Xeon(TM) Processor สำหรับ Server และ Work Station 
2001 : Pentium 4 Processor มีเทคโนโลยี HT ทำให้การใช้งานทีละหลายโปรแกรมได้ดีขึ้น

2003 : Pentium M ส่วนใหญ่ใช้ใน mobile technology เนื่องจากใช้กำลังไฟฟ้าน้อย
2005 : Pentium D มีการใช้สถาปัตยกรรมแบบ Multi-core เพิ่มเข้ามาโดยมี2 coreแต่ละ core จะเป็นอิสระ
ต่อกัน
2006 : Intel Core duo นี่แหละครับพระเอกของเรา ต่างกับ Pentium D ตรงที่มีการแชร์ 2 core ด้วยกัน 
(dual core) 

2006 : Intel Core 2 Duo รองรับชุดคำสั่ง 64 bit และยังประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย
2006 : Intel Core 2 Extreme QX6700 คือ มี 4 core 
2006 : Yorkfield คือ 8 core 

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กฎของ Moore's law


กฎของมัวร์ (Moore's law) อธิบายถึง ปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม โดยจะเพิ่มเป็นเท่าตัวประมาณทุก ๆ สองปี  กฎนี้ได้ถูกพิสูจน์อย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ และคาดว่าจะใช้ได้จนถึงปี 2015 หรือ 2020 หรืออาจมากกว่านั้น
ความสามารถของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย เป็นไปตามกฎของมัวร์อย่างเห็นได้ชัด เช่น  ความเร็วประมวณผล  ความจุของแรม  เซ็นเตอร์ หรือแม้แต่จำนวนพิกเซลของกล้องดิจิทัล   ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลสนับสนุนอย่างคร่าว ๆ (ยังมีกฎอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นราคาต่อหน่วย) การพัฒนาของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กฎของมัวร์ได้อธิบายแรงการขับเคลื่อนของเทคโนโลยี ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 ไปจนถึงต้นศตวรรษที่ 21
ชื่อของกฎถูกตั้งตามชื่อของ อดีตซีอีโอ  และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท อินเทล กอร์ดอน มัวร์(Gordon E. Moore) เขาได้อธิบายกฎนี้ไว้ในรายงานของเขาเมื่อปี 1965 รายงานนั้นได้ระบุไว้ว่า จำนวนของส่วนประกรอบในวงจรรวมจะเพิ่มเป็นเท่าตัวทุก ๆ ปี ตั้งแต่ปี 1958 ไปจนถึง 1965 และคาดว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีก "อย่างน้อยสิบปี" การทำนายของเขายังเป็นไปตามที่คาดไว้อย่างน่าประหลาดใจ อย่างน้อยกฎนี้ปัจจุบันยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำที่ได้ถูกใช้เป็นแนวทางของแผนที่จะเป็นเป้าหมายของของการวิจัย และพัฒนา

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การแทนข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์

SITTICHAI SEKPATHAN
ใช้พื้นที่ 19ไบต์ และประกอบด้วยรหัส ASCII ฐาน 2,16 ดังนี้

  • S = (0101 0011)2   =  (53)16
  • I  = (0100 1001)2  =  (49)16
  • T = (0101 0100) 2  =  (54)16
  • T = (0101 0100) 2  =  (54)16
  • I  = (0100 1001) 2  =  (49)16
  • C = (0100 0011) 2  =  (43)16
  • H = (0100 1000) 2  =  (48)16
  • A = (0100 0001) 2  =  (41)16
  • I  = (0100 1001) 2  =  (49)16
  • SPACE = (0100 0000) 2  =  (20)16
  • S =  (0101 0011) 2  =  (53)16
  • E =  (0100 0101) 2  =  (45)16
  • K = (0100 1011) 2  =  (4B)16
  • P = (0101 0000) 2   =  (50)16
  • A = (0100 0001) 2  =  (41)16
  • T = (0101 0100) 2  =  (54)16
  • H = (0100 1000) 2  =  (48)16
  • A = (0100 0001) 2  =  (41)16
  • N = (0100 1110) 2  =  (4E)16

เทคโนโลยีสมัยใหม่

    “เอซุส” เปิดตัว โน้ตบุ๊กผลงานการออกแบบชิ้นเอกจาก “เจย์ โชว์” เตรียมบุกตลาดไทย ก.ค. นี้ จำกัดเพียง 1,000 เครื่องเท่านั้น นอกจากนี้้ยังเปิดตัวโน้ตบุ๊ก ROG G74Sx 3D พร้อมฟีเจอร์โอเวอร์คล็อก…
             นายจอนนี่ ฉี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัสซุส ประเทศไต้หวัน กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่นักร้องและนักแต่งเพลงผู้มีความสามารถอย่างเจย์ โชว์ ได้ให้เกียรติมาเป็นผู้สร้างสรรค์ดีไซน์ใหม่ของโน้ตบุ๊ก N Series Special Edition ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานความงดงามแบบดั้งเดิมและดีไซน์สมัยใหม่ โดยเจย์ โชว์ ได้รังสรรค์จินตนาการและความหลงใหลในเสียงดนตรีออกแบบผลงานชิ้นนี้ โดยได้แรงบันดาลใจจากตัวโน้ตดนตรี บทเพลง เปียโนและสัญลักษณ์ทางดนตรีต่างๆ สู่การผสมผสานดีไซน์ตัวอักษรสมัยใหม่แบบ J-style เข้ากับลวดลายเครื่องกระเบื้องสีน้ำเงินและสีขาวแบบจีนโบราณ ที่ถ่ายทอดความแข็งแกร่งและความหลากหลายแห่งศิลปะเอเชียได้เป็นอย่างดี”
             นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทวางแผนจะนำโน้ตบุ๊ก N Series Special Edition ที่ออกแบบโดยเจย์ โชว์ เข้ามาทำตลาดเมืองไทย ประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ แต่จะเป็น Limited Edition จำนวนเพียง 1,000 เครื่องในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสร้างกระแสตลาดโน้ตบุ๊กในไตรมาสที่ 3 ให้คึกคักยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่รักและชื่นชอบในตัวเจย์ โชว์ รวมถึงคอไอทีแฟนพันธุ์แท้ของตระกูล N series จะไม่ผิดหวังกับคุณสมบัติที่มากับเครื่องรุ่นนี้อย่างแน่นอน
              โน้ตบุ๊ก N Series Special Edition” ตัวเครื่องทำจากอะลูมินั่ม ที่เพิ่มความทนทาน ในรูปโฉมการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ พร้อมกับ Window Premium ในราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ อีกทั้งกระหึ่มด้วยเทคโนโลยีเสียง Sonic Master USB-3.0 และ V RAM 2 GB มีให้เลือก 2 สี คือ Hot Pink และ Sheen Gold แฟนคลับของเจย์ โชว์และลูกค้าที่สนใจสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเอซุส ทั่วประเทศ ในราคาเพียง 27,900 (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมประกัน 2 ปีทั่วโลก
               นอกจากนี้ เอซุส ยังเปิดตัวโน้ตบุ๊ก ROG G74Sx 3D โน้ตบุ๊กเพื่อการเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา ผสมผสานกราฟฟิกการ์ด NVIDIA GTX 560M โดดเด่นด้วย CG8565 Gaming System เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ให้คอเกมสัมผัสได้ถึงการตอบสนองแบบทันท่วงทีเช่นเดียวกับในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และฟีเจอร์สำหรับการโอเวอร์คล็อกอย่างง่ายดาย เพื่อประสิทธิภาพที่ไร้ขีดจำกัดของคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์อีกด้วย มาพร้อมอุปกรณ์เสริม ชุดหูฟัง Vulcan ANC ที่ช่วยลดเสียงรบกวน เพิ่มอรรถรสแห่งเสียงเพลงในทุกสภาพแวดล้อม และ ASUS VG278H จอภาพสามมิติขนาด 17 นิ้ว ที่รวมขุมพลังแห่งฮาร์ดแวร์ซีรีย์ ROG ไว้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้คอเกมตื่นตาตื่นใจไปกับสุดยอดกราฟฟิกจากเกมใหม่ล่าสุดโดยเฉพาะ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แนะนำตัว

ถึงหน้าตาไม่หล่อ  แต่หัวใจผมหล่อมาก

 สวัสดีครับ
  ผมชื่อ นายสิทธิชัย เศกปทาน
  เกิดวันที่ 09/12/35
  เบอร์โทร  089-474-6618                                                      
 คติ  ไม่ได้เจ้าชู้   แค่มีเนื้อคู่หลายคน  ฮ่าๆๆ